บ้านไร่กาแฟ
ประวัติการก่อตั้งธุรกิจบ้านใร่กาแฟ
เมื่อปี ๓๘ – ๔๐ ได้พบกาแฟรูปแบบชาวบ้านตั้งซุ้ม โต๊ะ ในปั๊มตามเส้นเดินทางทั่วประเทศ ในลักษณะคั่วชงซึ่งมี จุดเด่นในรสชาติ และวิธีการในการนำเสนอ คือ ในขณะชงจะเห็นกรรมวิธีขั้นตอน และ ลีลาการชงกาแฟของชาวบ้านดูมีศิลปะ เพิ่มคุณค่าให้กาแฟในแก้วนั้น ๆ ซึ่งมีวิธีการปรุงแก้วต่อแก้ว ตักกาแฟคั่วใหม่จากโหลที่ปิดฝาสนิทบดสด ๆ ชงสด ๆ (อันเป็นที่มาของคำว่า กาแฟสด ) และอยู่ตามเส้นเดินทาง จึงนำแนวทางของชาวบ้านมานำเสนอในรูปแบบของบ้านใร่กาแฟ คือ เพิ่มอาคารกาแฟ จัดการความสะอาด ความสะดวกสบาย สร้างระบบธุรกิจ เพิ่ม แนวทางคิดทางสถาปัตยกรรม เป็นอาคารทรงไทยโมเดิร์น จัดภูมิทัศน์โดยรอบเพื่อให้เป็นกาแฟไทยอย่างมืออาชีพ โดยพัฒนาความคิดภายใต้แนวคิดที่ว่า สวนแห่งการดื่มกาแฟ เริ่มธุรกิจกาแฟ สาขาแรกเมื่อ ๒๑ ธ.ค ๒๕๔๐ ในช่วงเริ่มได้นำสิ่งที่พบเห็นมาพัฒนาแนวคิด มาพัฒนาเป็นรูปแบบของ “บ้านใร่กาแฟ” โดยเน้นเอกลักษณ์ของความเป็น กาแฟไทยคุณภาพสดจากใร่ ซึ่งเริ่มจากการพัฒนารูปแบบในการนำเสนอ ภายใต้ความเชื่อที่ว่านักดื่มกาแฟ หรือคอกาแฟย่อม ต้องการกาแฟ คุณภาพและต้องมีสุนทรียภาพ จึงเห็นว่า นำในลักษณะ บ้านและกาแฟสำหรับเส้นทางของนักเดินทางทาง ซึ่งจัดเป็นกลุ่มลูกค้าหรือตลาดที่น่าสนใจ ด้วยความเป็นมา จากสิ่งที่พบเห็นของ ของสังคมไทย ภูมิปัญญาของชาวบ้านไทย จึงได้ตั้งชื่อ ให้เป็นชนบทของไทยชื่อ “บ้านใร่กาแฟอปี ๓๘ – ๔๐ ได้พบกาแฟรูปแบบ
ธุรกิจ “บ้านใร่กาแฟ” เริ่มจากการใช้ตัวอาคาร ทรงสูงสง่า เป็นสื่อถึงสินค้าคุณภาพ ด้วยการนำแนวคิดด้าน สถาปัตยกรรมไทยมาพัฒนาให้กลมกลืนกับสินค้าคือกาแฟไทยสดจากใร่ โดยมีลักษณะเป็นตัวอาคารไม้ทั้งหลังทรงสูง รูปจั่วสามเหลี่ยมไม้ ตัดมุมกันคาดทับด้วยขื่อ มองดูคล้ายจั่วของบ้านซึ่งสะท้อนความเป็นไทยและโลกตะวันออก นอกจากนี้ในส่วนของภายในอาคารกรุผนังด้วยไม้เนื้ออ่อนสีขาวอมเหลือง ประดับด้วยรูปภาพครอบครัว พี่น้อง นิทานเรื่องเล่าต่าง ๆ และใช้แสงไฟสีเหลืองออกส้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่นของบ้าน ที่พร้อมจะต้อนรับลูกค้า (แขกผู้มา เยือน)ส่วนภายนอกได้ใช้ความคิดเชิงสถาปัตยกรรมออกแบบ ให้มีน้ำไหลเป็นทางผ่านผนังกระจกใสมองเห็น ได้จากภายใน ภายนอกมีเฉลียงไม้พร้อมม้านั่งยาว ใต้ร่มประดู่กิ่งอ่อน (ประดู่อังสนา) ให้บรรยากาศร่มรื่น และพลับพลึง ที่ปลูก อยู่รอบอาคาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการตอบสนองสุนทรียภาพของคอกาแฟ ในส่วนของวัตถุดิบ ทางบริษัทฯ ผลิตกาแฟเครื่องดื่มซึ่งเป็นสินค้าหลักของ “บ้านใร่กาแฟ” ซึ่งเป็นผลผลิตที่มาจากใร่บน ดอยสูงของภาคเหนือ ( ดอยตั้งแต่ จังหวัดเชียงใหม่ขึ้นไป ต้องมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล ๘๐๐ เมตร ) เป็นกาแฟสด คุณภาพแห่งหนึ่งของโลก มาทำการคั่ว ( จาก อ. หนองแซง จ.สระบุรี ) โดยใช้เวลาและอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดรสและกลิ่นที่แตกต่างกันไปภายใต้ชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย
– เอเซีย บอรก เบลนด์
– บ้านใร่ บอรก เบลนด์
– บางกอก บอรก เบลนด์
– ไทยปักษ์ใต้ บอรก เบลนด์
กาแฟถูกบรรจุลงในถุงขนาดเล็ก (๒๕๐ กรัม ) เพื่อให้ใช้หมดในเวลาอันสั้นและหมุนเวียนเปลี่ยนทุก ๑๕ วัน ทำให้สดหอมยิ่ง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเพื่อนำเมล็ดกาแฟมาบดและชงแก้วต่อแก้ว พร้อมเสิร์ฟด้วยแก้วดินเผา(จาก อ. หินกอง จ.สระบุรี) ที่ผ่านการต้มเพื่อให้คุณสมบัติในการเก็บความร้อน ซึ่งจะส่งผลในการรักษารสชาติและความหอมของกาแฟได้ดียิ่งขึ้น กล่าวโดยสรุป จะเห็นได้ว่ากระบวนการทั้งหมดของธุรกิจ “บ้านใร่กาแฟ” ล้วนเกิดมาจากผลงานของคนไทยทั้งสิ้นไม่ว่าจะ เป็นแนวคิด ในด้านการออกแบบนำเสนอในเรื่องของตัวอาคาร ผลผลิตที่เป็นกาแฟคุณภาพของไทย กระบวนและขั้นตอนในการแปรรูปวัตถุดิบให้เป็นกาแฟคุณภาพ ชื่อยี่ห้อไทย รวมทั้งแรงจูงใจจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่เป็น จุดกำเนิดของธุรกิจบ้านใร่กาแฟซึ่ง บริษัท ออกแบบใร่นา (ประเทศไทย) จำกัด ที่จะดำเนินและพัฒนาธุรกิจกาแฟของไทยให้ สู่ระดับมาตรฐานสากล ภายใต้คำว่า “บ้านใร่ไทยแท้ๆ” (BANRIE THAI STYLE)
การเปรียบเทียบต่อคู่ค้ากาแฟ
1. เน้นคุณภาพ โดยเปลี่ยนกาแฟใหม่ทุก ๑๕ วัน (ทั่วไปคือ ๒๘ วันถึง ๑๐ เดือน)
2. บริษัทคั่วกาแฟและมีสิทธิบัตรสูตรของกาแฟ กาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ รูปแบบของชื่อชนิดกาแฟคือ เอเซียเบลนด์ ไทยเบลนด์ บ้านใร่เบลนด์ คอฟฟี่เอฟเบลนด์ สยามเบลนด์ และบางกอกเบลนด์
3. ลักษณะอาคารสาขา มีรูปแบบเดียวกัน มีลิขสิทธิ์ที่ชื่ออาคารออกแบบใร่นา และอาคารบ้านใร่เพียวลม (แบบสถาปัตยกรรม)
4. สวนกาแฟ มีลิขสิทธิ์ชื่อ สวนแห่งการดื่มกาแฟ (แบบภูมิสถาปัตยกรรม) บ้านใร่เพิ่มพื้นที่ภายนอกให้เป็น ส่วนกึ่งสาธารณะเป็นที่สำหรับพักผ่อนและใช้กิจกรรมในแนวคิดสวนกาแฟ (จะกล่าวในตอนท้ายในเรื่องจินตภาพ )
5. ให้บรรจุภัณฑ์มีความแตกต่าง
1. เครื่องดื่มร้อน ใช้แก้วดินเผา ต้มร้อน พร้อมเสิร์ฟให้ขึ้นรถได้ทันที ทำให้หอมไอกาแฟ ด้วยความร้อนจาก แก้ว ที่ทำให้ระเหยไอกาแฟมากขึ้น และกาแฟร้อนนานขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบ้านใร่กาแฟ (ปัจจุบันเป็นแบบที่ ๒๓)
2. เครื่องดื่มเย็น บรรจุในแก้ว ๒๒ ออนซ์ ที่มีเรื่องเล่านิทาน คำกลอนอีกด้านเป็น ภาพลายเส้น รูปภาพ สะท้อนความเป็นไทย เปลี่ยนรูปแบบ เรื่องเล่า ลวดลายสีสัน ทุก ๑๕ วัน (ปัจจุบันเป็นแบบที่ ๑๕)
สินค้าบ้านไร่กาแฟ กาแฟที่บ้านใร่กาแฟใช้มี ๒ สายพันธุ์ คือ
๑.พันธ์อาราบิก้า
กาแฟพันธ์อาราบิก้าซึ่งมีคุณสมบัติคือปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น หรือทางภาคเหนือของประเทศไทยตั้งแต่พิษณุโลกขึ้นไป ปัจจุบันรับมาจากโครงการหลวง จ.เชียงใหม่ ซึ่งปลูกในพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเล ๘๐๐ เมตร พื้นที่ที่เป็นดอยต่าง ๆ คุณสมบัติที่เด่นคือรสชาติขมชุ่มคอ ไม่เปรี้ยวนิยมทำเป็นกาแฟสด , แต่มีราคาต้นทุนค่อนข้างสูงกว่าโรบัสต้า ผลผลิตจะเก็บเกี่ยวได้จำนวนไม่มาก ไม่มีความทนทานต่อความผันแปลของอากาศ แต่รสชาติดี โดยสรุปกาแฟทั่วโลกที่มีอยู่ ๕๐ กว่าสายพันธ์แต่ที่นิยมปลูกในแถบทวีปเอเชียคือพันธุ์อาราบิก้า และโรบัสต้า
๒.กาแฟพันธ์โรบัสต้า
กาแฟพันธ์โรบัสต้า ปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้นในประเทศไทยก็คือภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ปัจจุบันใช้วัตถุดิบจากบ้านทุ่งคา จังหวัดชุมพร เติบโตได้ดีในอากาศร้อนชื้น ผลผลิตส่วนใหญ่นิยมใช้ทำกาแฟสำเร็จรูปหรือกาแฟกระป๋อง คุณสมบัติที่เด่น คือรสชาติและกลิ่นจะมีความเปรี้ยว ไม่ค่อยนิยมใช้ทำกาแฟสด ด้วยคุณสมบัติที่เด่น ทำให้มีราคาที่ตกต่ำ เกษตรกรใช้เวลาปลูกและเก็บผลผลิตได้ต้องใช้ระยะเวลาถึง ๓ ปี จึงเก็บผลผลิตได้แต่ไม่เป็นที่นิยมบริโภค แต่โรงกาแฟกระป๋องมีความต้องการ แต่ในการรับซื้อจะมีราคาค่อนข้างต่ำ จึงมีผลกระทบต่อเกษตรกร ไม่มีแรงบันดาลใจในการปลูกและเก็บผลผลิต เกษตรกรจึงจำเป็นต้องตัดต้นกาแฟทิ้งเพราะไม่ได้ราคาที่ต้องการ และ ไม่นิยมปลูกเนื่องจากหันไปปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างเช่น ยางพารา ที่มีราคาดีกว่า บ้านใร่กาแฟเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ก็เกิดแนวคิดในการช่วยเหลือและผลักดันกาแฟไทย ให้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป และเกิดการแพร่หลายในกลุ่มผู้บริโภค กลุ่มลูกค้าบ้านใร่กาแฟที่มีอยู่เดิม โดยนำวัตถุดิบจากบ้านทุ่งคา จ.ชุมพร มาทำวิธีการสีแบบเปียก ซึ่งเป็นโครงการของบ้านใร่กาแฟ (โครงการออกแบบไร่นาประเทศไทย) ร่วมกับกลุ่มเกษตรกรภาคใต้ จ.ชุมพร โดยบุคลากรบ้านใร่กาแฟที่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องของการผลิตสารกาแฟแบบเปียก ก่อนจะนำมาคั่วที่โรงคั่วของบ้านใร่กาแฟและให้ราคาของเมล็ดกาแฟในราคาที่สูงกว่าที่เกษตรกรส่งให้กับโรงงานกาแฟกระป๋อง นอกจากนี้ยังช่วยเหลือในการซื้อต้นกาแฟโรบัสต้ามาปลูกที่สาขาบ้านใร่กาแฟ ทุกสาขาเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ของคำว่า “สวนกาแฟ” และตั้งชื่อหรือเบลนด์ว่า ไทยปักษ์ใต้เอสเพรสโซ่ บอรก จำหน่ายเป็นเมนูหลักของบ้านไร่กาแฟ
การคั่วกาแฟ
ทฤษฎีการคั่วบ้านใร่กาแฟคือ ลักษณะการคั่วหรือวิถีการคั่วของบ้านใร่กาแฟ ลักษณะของการคั่วเริ่มจากนำเมล็ดกาแฟดิบ ๓๐ – ๔๐ กิโลกรัม ใส่หม้อคั่วและทำการคั่วโดยใช้เวลาและความร้อนในการกำเนิด และไม่ใส่ส่วนผสมในการปรับรสและกลิ่นของวัตถุดิบ เพื่อคงความเป็นรสชาติกาแฟ ๑๐๐ % และกำหนดให้มีความแตกต่างกันในเรื่องของความขมให้เป็น ๓ ระดับ โดยกำหนดเวลาในการคั่วที่ต่างกัน
กาแฟดอยช้าง
กาแฟดอยช้าง เป็นผลผลิตของเกษตรกรชาวไทยภูเขาบนดอยช้าง ณ หมู่บ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งแต่เดิมอาชีพหลักของชาวบ้านคือ การปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย จนกระทั่งปี 2526 พี่น้องบนดอยช้างพร้อมใจกันเลิกปลูกฝิ่น เนื่องด้วยพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ทรงสนับสนุนให้ปลูกกาแฟพันธุ์อราบิก้าและพืชเมืองหนาวอื่นๆทดแทนโดยผ่านทางโครงการต่างๆ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อกันแล้วละครับ เพราะกระบวนการผลิตกาแฟทั้งระบบของดอยช้างตั้งแต่าปลูก เก็บเกี่ยว เลือกสรร คั่ว บด และบรรจุภัณฑ์ เป็นธุรกิจของพี่น้องชาวอาข่าทั้งหมด ที่สำคัญรสชาติของกาแฟดอยช้างที่ผ่านการพัฒนามาหลายรุ่นนั้น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริง ๆทั้งกลิ่นหอมอันยั่วยวนและอรรถรสที่โดดเด่น ชิมแล้วทราบทันทีว่านี่คือ กาแฟสดจากยอดดอยช้าง ขุนเขาที่สูงสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร
ความเป็นมา
- พ.ศ. 2526 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไทยภูเขา โดยทรงริเริ่มโครงการตามพระราชดำริ ทรงพระราชทานพันธุ์พืช มาทดแทนและลดการปลูกฝิ่น
- เริ่มต้นปลูกกาแฟ แต่มีปัญหาที่ผลผลิต จำหน่ายได้ในราคาต่ำ พ่อค้าคนกลางกดราคามาก ไม่ได้รับความเป็นธรรม
- พัฒนาคุณภาพกาแฟ และผลิตเพื่อส่งออก จนได้รับการยอมรับระดับโลก
- ซื้อเครื่องคั่ว ราคา 17 ล้านบาทจากอิตาลี เพื่อการคั่วกาแฟที่ได้มาตรฐานทุกห่อ ทุกซอง เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภค
- พ.ศ. 2540 ร่วมทุนกับประเทศแคนาดา เพื่อเปิดโรงงานคั่วกาแฟที่ประเทศแคนาดาพร้อมเป็นประตูส่งออกกาแฟอราบิก้าชั้นเยี่ยมของไทย สู่คอกาแฟในประเทศอเมริกาเหนือ และยุโรป
- ในแคนาดา มีร้านจำหน่ายกาแฟดอยช้าง ในแวนคูเวอร์กว่า 100 ร้านค้า
- พ.ศ. 2550 ร่วมทุนกับประเทศเกาหลี เพื่อขยายตลาดสู่เอเชีย
- กาแฟดอยช้าง ส่งออก 95% และจำหน่ายในประเทศ 5%
- พ.ศ. 2551 บริษัท ดอยช้าง เทรดดิ้ง จำกัด ถือกำเนิดขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคคนไทย ได้มีโอกาสดื่มกาแฟของคนไทย ที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับระดับโลก และเป็นที่กล่าวขานสำหรับคอกาแฟ
9 เหตุผลที่ทำให้กาแฟดอยช้าง เด่นและดัง
- เป็นกาแฟอราบิก้า 100% สายพันธุ์พิเศษ (Specialty Coffee)
- เป็นเมล็ดกาแฟแบบ Strickly Hard Bean (SHB) ซึ่งเติบโตอย่างช้า ๆ แต่สามารถสะสมอาหารได้อย่างเต็มที่ ทำให้เมล็ดมีความหนาแน่นสูง
- เป็นกาแฟที่เพาะปลูกบนพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร และเป็นพื้นที่เดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Single Origin Coffee)
- เป็นกาแฟที่พิถีพิถันทุกขั้นตอนการผลิต เก็บเมล็ดสุกด้วยมือทีละเมล็ด
- เป็นกาแฟที่มีรสชาติกลมกล่อม ประทับใจ มีกลิ่นดอกไม้ และมีรสชาติกรดอ่อน ๆ หอมกลิ่นผลกาแฟ เนื่องจากพื้นที่ในการปลูกมีการปลูกพืชเมืองหนาว เช่น ท้อ บ๊วย สลับกัน
- เป็นกาแฟที่คั่วด้วยเครื่องจักรทันสมัยจากอิตาลี ควบคุมด้วยระบบ คอมพิวเตอร์ทั้งหมด จึงควบคุมคุณภาพ การคั่วที่ได้มาตรฐานทุกถุง
- เป็นกาแฟที่จำหน่ายและมีชื่อเสียงโด่งดังในหลายประเทศ เช่น แคนาดา ออสเตรเลีย อิตาลี ญี่ปุ่น อเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลี ฯลฯ
- เป็นกาแฟที่บรรจุถุงฟอยล์คุณภาพสูง มีวาล์วระบายอากาศแบบทางเดียว ทำให้อากาศภายในออกได้ และป้องกันอากาศภายนอกเข้ามาในถุง ทำให้กาแฟคงความสดใหม่เสมอ
- เป็นกาแฟที่ใช้การทำกาแฟเมล็ดด้วยวิธีเปียก (Wet Process) ทำให้ได้กาแฟเมล็ดที่มีคุณภาพด้านกลิ่นและรสชาติที่จัดว่าเป็นกาแฟชั้นคุณภาพดี